วันอาทิตย์ที่ 6 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2554

เฮเลือกครูอันดับ1 คะแนนแซงวิศวะ

ครูพันธุ์ใหม่'สร้างประวัติศาสตร์วงการศึกษาไทย ส่งผลให้เด็ก ตจว.แห่เลือกคณะ'ครุศาสตร์/ศึกษาศาสตร์'อันดับ 1

กรณีที่นายชินภัทร ภูมิรัตน เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน ระบุว่าปัจจุบันโรงเรียนประถมและมัธยมศึกษาในสังกัดสำนักงานคณะกรรมการการ ศึกษาขั้นพื้นฐาน(สพฐ.) ขาดแคลนครูกว่า 40,000 คนโดยขาดแคลนครูสอนวิชาวิทยาศาสตร์คณิตศาสตร์ และภาษาอังกฤษ มากที่สุดนั้นเมื่อวันที่ 4 กุมภาพันธ์ นายชัยพฤกษ์ เสรีรักษ์รองเลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (กพฐ.) เปิดเผยว่า นายชินวรณ์ บุณยเกียรติ รัฐมนตรีว่าการศึกษาธิการ (ศธ.) มีแนวทางการแก้ไขปัญหาโดยให้ สพฐ.นำอัตราครูเกษียณอายุราชการก่อนกำหนด หรือเออร์ลี่รีไทร์ และอัตราครูเกษียณอายุราชการ ประจำปี 2552 รวม 16,000 คน ที่เพิ่งได้รับคืนมา มาจัดสรรและบรรจุให้แก่โรงเรียนที่ขาดแคลนโดยจะดูแลเป็นพิเศษในโรงเรียน กาญจนาภิเษกวิทยาลัย และโรงเรียนตามโครงการโรงเรียนดีประจำตำบล โดยให้บรรจุครูตามสาขาวิชาเอกที่ขาดแคลน 

"นอกจากนี้ รัฐบาลยังสนับสนุนโดยการต่อสัญญาจ้างครูอัตราจ้าง สพฐ.ได้จ้างวิทยากรมาช่วยสอนอาชีพ รวมถึงวิทยากรอิสลามศึกษาและเมื่อเปิดโอกาสให้บรรจุครูใหม่ ครูอัตราจ้างก็จะได้รับการดูแลในการบรรจุเป็นครูผู้ช่วยรวมทั้งแก้ไขปัญหา โดยการจัดสอนคละชั้นสำหรับโรงเรียนที่มีครูไม่ครบชั้นเรียน โดยนำนักเรียนที่อยู่ใกล้เคียงมาสอนรวมกัน" รองเลขาธิการ กพฐ.ระบุ
นายไชยยศ จิรเมธากร รัฐมนตรีช่วยว่าการศธ. กล่าวว่า กำลังจัดทำโครงการผลิตครูพันธุ์ใหม่ โดยรับนักเรียนชั้น ม.6 มาเรียนหลักสูตรครู 6 ปี เมื่อจบแล้วได้รับวุฒิการศึกษาระดับปริญญาโท พร้อมประกันการมีงานทำ และให้ทุนการศึกษาฟรี โดยแต่ละคนจะใช้งบประมาณ 500,000-600,000 บาทตลอดการเรียน 6 ปี ซึ่งจะเป็นค่าใช้จ่ายสำหรับค่าเล่าเรียน และค่าใช้จ่ายส่วนตัว อาทิ ที่พัก ตำราเรียน เป็นต้น โดย 4 ปีแรก จะจัดสรรเงินให้แก่ผู้เรียนในอัตราระดับปริญญาตรี ส่วน 2 ปีหลังจะจัดสรรเงินให้ในอัตราปริญญาโท
นายไชยยศกล่าวว่า ในปีการศึกษา 2554 ตั้งเป้าจะรับนิสิตนักศึกษาในโครงการครูพันธุ์ใหม่5,000 คน ในมหาวิทยาลัย 74 แห่ง แต่มีมหาวิทยาลัยตอบรับว่ามีความพร้อมที่จะเปิดสอนคณะครุศาสตร์/ศึกษาศาสตร์ หลักสูตร 6 ปีเพียงแค่ 35 แห่ง ซึ่งจะรับนิสิตนักศึกษาได้เพียง3,000 คน ทั้งนี้ จะทำรายละเอียดเสนอที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เพื่อพิจารณาอนุมัติงบฯภายในเดือนกุมภาพันธ์นี้ ซึ่งขึ้นอยู่กับ ครม.ว่าจะอนุมัติงบฯให้ตามรายการที่เสนอให้หรือไม่ 

"โครงการนี้จะช่วยแก้ไขปัญหาขาดแคลนครู รวมถึงเร่งผลิตเพื่อทดแทนครูที่จะเกษียณในปี 2563 เกือบ 200,000 คน ผมเชื่อมั่นว่าจะจูงใจให้คนเก่งเข้ามาเรียนครูมากขึ้น เพราะให้ทุนฟรี และประกันการมีงานทำ เพราะเมื่อจบ บัณฑิตสามารถเลือกบรรจุลงในจังหวัดเกิดโดยเลือกลงอำเภอใดก็ได้" นายไชยยศกล่าว นายไชยยศกล่าวว่า ที่ผ่านมามีผลสำรวจพบว่าจากโครงการผลิตครูพันธุ์ใหม่ ส่งผลให้ผลการรับนิสิตนักศึกษาในระบบรับตรงของมหาวิทยาลัยต่างๆ ในปีการศึกษา 2554 มีนักเรียนในต่างจังหวัดเลือกเรียนคณะครุศาสตร์/ศึกษาศาสตร์ สูงเป็นอันดับ 1 ซึ่งถือเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ และยังเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ด้วยที่คะแนนของเด็กที่เลือกเรียนคณะ ครุศาสตร์/ศึกษาศาสตร์ สูงกว่าคณะวิศวกรรมศาสตร์
ด้านนายสมหวัง พิธิยานุวัฒน์ ประธานคณะกรรมการบริหารโครงการผลิตครูพันธุ์ใหม่กล่าวว่า ในวันที่ 15 กุมภาพันธ์ คณะกรรมการบริหารโครงการผลิตครูพันธุ์ใหม่ จะหารือในรายละเอียดเรื่องดังกล่าว ก่อนนำเข้าสู่ที่ประชุม ครม.ต่อไป



ที่มา: หนังสือพิมพ์มติชน

วันอาทิตย์ที่ 30 มกราคม พ.ศ. 2554

โฆษณา 7-Eleven ชุด ครูฝึกสอน (วันครูปี 2553)

ครูคือใคร?

Thai Teachers TV โทรทัศน์ครู : จุดประกายนักวิทยาศาสตร์น้อย

Thai Teachers TV โทรทัศน์ครู : จุดประกายนักวิทยาศาสตร์น้อย

Thai Teachers TV โทรทัศน์ครู : หมอดินน้อย ฉบับเต็ม

Thai Teachers TV โทรทัศน์ครู : หมอดินน้อย ฉบับเต็ม

Thai Teachers TV โทรทัศน์ครู : หมอดินน้อย ฉบับเต็ม

Thai Teachers TV โทรทัศน์ครู : หมอดินน้อย ฉบับเต็ม

รัสเซียมั่นใจโลกไม่หายนะ แม้สนามแม่เหล็กเคลื่อนที่ไปแล้ว200ก.ม.

รัสเซียมั่นใจโลกไม่หายนะ แม้สนามแม่เหล็กเคลื่อนที่ไปแล้ว200ก.ม.



การที่สนามแม่เหล็กโลกเคลื่อนที่อาจทำให้โลกได้รับรังสีจากอวกาศมากขึ้น และโลกอาจจะเกิดมหันตภัยแบบ "ฮิโรชิมา" ได้ภายในพริบตา

ตาม ลักษณะทางภูมิศาสตร์ของขั้วโลกเหนือและขั้วโลกใต้ พบว่า ยังอยู่ในตำแหน่งเดิม แต่สนามแม่เหล็กโลกทั้ง 2 ขั้ว เคลื่อนที่ออกจากจุดเดิมไปแล้ว 200 กิโลเมตร ซึ่งการที่สนามแม่เหล็กโลกเคลื่อนที่จะส่งผลต่อโลก

นายเยฟเกนี ชาลัมบีริดซี หัวหน้านักวิทยาศาสตร์จากสถาบันทหารบกของรัสเซีย เปิดเผยว่า "ตามปกติแล้ว โลกจะปล่อยพลังงานที่เหลือผ่านรอยแยก แล้วออกไปยังอวกาศ แต่ถ้ารอยแยกปิด พลังงานนี้จะหลงเหลืออยู่ในโลก แต่ไม่ได้หมายความว่า ภัยธรรมชาติร้ายแรงที่เกิดขึ้นในช่วงไม่กี่ปีมานี้เกิดจากการเคลื่อนที่ของ สนามแม่เหล็ก"

ด้านนายอเล็กซานเดอร์ ฟีฟีลอฟ โฆษกสถาบันวิทยาศาสตร์ธรรมชาติ มีความเห็นว่า "ในอนาคตข้างหน้า ทั้งสนามแม่เหล็กโลกและขั้วโลกจะเปลี่ยนที่ ซึ่งปรากฏการณ์นี้จะเกิดขึ้นทุกๆ 23,000 ปี แต่ก่อนขั้วโลกใต้เคยอยู่บริเวณเกาะอีสเตอร์ ส่วนขั้วโลกเหนืออยู่ที่เทือกเขาหิมาลัย นี่คือเหตุผลว่า ทำไมแมมมอธ เสือเซเบอร์ทูธ และไรโนเซอรัส เคยอาศัยอยู่แถบอาร์กติก จากการที่ขั้วโลกเปลี่ยนที่อย่างรวดเร็ว อาจทำให้สัตว์แข็งตายทันที ซึ่งนักโบราณคดีพบฟอสซิลสัตว์จำนวนมากที่มีพืชผักที่ยังไม่ได้ย่อยอยู่ใน กระเพาะ"

การเคลื่อนที่ของขั้วโลก อาจทำให้อากาศบนโลกติดลบถึง 273 องศา แต่ ดร.วลาดิเมียร์ คัซเนตซอฟ ผู้วชาญด้านฟิสิกส์และคณิตศาสตร์วิทยาศาสตร์ เห็นว่า "ในช่วง 4 ล้านปีที่ผ่านมา ขั้วโลกเปลี่ยนที่ไปแล้วถึง 16 ที่ และไม่เคยมีว่า สนามแม่เหล็กโลกจะหายไป โลกเราจะยังมีสนามแม่เหล็กกั้นรังสีจากนอกโลกอยู่ โลกจะไม่หนาวเย็นจนแข็ง และไม่มีอันตรายใดๆ ต่อมนุษยชาติ" - ปราฟดา


ที่มา หนังสือพิมพ์ข่าวสด